คัมป์นู เวทีประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปครั้งแรก

ตามรอยลูกหนัง เมื่อสนามคัมป์นูจัดงานใหญ่ครั้งแรกของยุโรป

ในบรรดาสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อของคัมป์นู (Camp Nou) สนามเหย้าของสโมสรบาร์เซโลนา ย่อมเป็นหนึ่งในนั้น แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า ก่อนที่สนามแห่งนี้จะกลายเป็นตำนานในฐานะสังเวียนรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอันโด่งดังในปี 1999 สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ระดับยุโรปครั้งแรกเมื่อหลายสิบปีก่อน

จุดเริ่มต้นที่สำคัญ นัดชิงชนะเลิศปี 1982

ย้อนกลับไปในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 สนามคัมป์นูได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศรายการยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ (European Cup Winners' Cup) ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างทีมเจ้าบ้านอย่าง บาร์เซโลนา และทีมจากเบลเยียม สตองดาร์ด ลีแอช (Standard Liège)

แม้ว่าในเวลานั้น บาร์เซโลนาจะยังไม่เคยคว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ ได้สำเร็จ แต่การลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปท่ามกลางแฟนบอลกว่า 100,000 คนในบ้านของตัวเองก็เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่

เกมที่น่าจดจำและชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์

บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงเชียร์ที่กึกก้อง ทีมสตองดาร์ด ลีแอช สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการทำประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่บาร์เซโลนาไม่ยอมแพ้ และสามารถตามตีเสมอได้จากลูกยิงของ อัลลัน ซิมอนเซ่น (Allan Simonsen) นักเตะชาวเดนมาร์ก ก่อนที่ในครึ่งหลัง คินี่ (Quini) ศูนย์หน้าชาวสเปนจะยิงประตูชัยให้บาร์เซโลนาเอาชนะไปได้ 2-1

ชัยชนะในครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้บาร์เซโลนาคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง แต่ยังเป็นนัดชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปครั้งแรกที่จัดขึ้นที่สนามคัมป์นู และเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของสนามแห่งนี้ในการรองรับการแข่งขันระดับสูงสุดของทวีปยุโรปในอนาคต

จากก้าวแรกสู่ตำนานบทต่อไป

นับจากนั้น สนามคัมป์นูก็ได้สร้างตำนานบทใหม่อีกหลายครั้ง รวมถึงการเป็นเจ้าภาพรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1982 และนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอันลือลั่นระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และบาเยิร์น มิวนิคในปี 1999 แต่สำหรับแฟนบอลและนักประวัติศาสตร์ฟุตบอลแล้ว การเป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1982 คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในสังเวียนฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก